ทำความเข้าใจทำไมผู้เสพติดถึงพยายามออกจากสถานบำบัดยาเสพติดก่อนกำหนด

เมื่อคนที่คุณรักเรียกร้องที่จะออกจากสถานบำบัดยาเสพติดก่อนกำหนด คุณจะทำอะไรได้บ้าง

หากเสียงโทรศัพท์จากคนที่คุณรักดังขึ้น พร้อมกับเสียงเรียกร้องและข้ออ้างมากมายที่จะออกจากสถานบำบัดยาเสพติดก่อนกำหนด คุณอย่าเพิ่งรู้สึกใจเสียหรือหมดหวัง ต่อไปนี้คือเทคนิคบางอย่างที่จะช่วยรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ และทำให้คนที่คุณรักยังคงอยู่รักษาตัวต่อไปในสถานบำบัด

สำหรับผู้เสพติดส่วนใหญ่ เส้นทางของการบำบัดนั้นเป็นเสมือนการเดินทางอันยาวไกล ที่ต้องผ่านอารมณ์อันหลากหลายและความคิดที่จะล้มเลิกอยู่หลายครั้ง ซึ่งมาจากกลไกปกติของสมองในการป้องกันตัวเอง จนกว่าพวกเขาจะสามารถยอมรับได้ว่า ตัวเองมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ ในฐานะเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัว คุณมีแนวโน้มที่จะได้เห็นกระบวนการอันแสนเจ็บปวดเหล่านี้ไปพร้อมกับคนที่คุณรัก ได้ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของพวกเขา และยินดีไปกับการเข้าสู่สถานบำบัดยาเสพติดของพวกเขา ด้วยความโล่งอกผสมผสานไปกับความหวัง

ดังนั้น เมื่อคนที่คุณรักหรือเจ้าหน้าที่ของสถานบำบัดยาเสพติดโทรมา และบอกว่าพวกเขาเรียกร้องอยากจะกลับบ้านก่อนกำหนด การจะบอกว่าควรคิดอย่างไรดี หรือควรต้องตอบสนองกับการเรียกร้องนี้อย่างไร จึงเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ การทำความเข้าใจการเสพติด รวมถึงการตอบสนองทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ต่อการกำจัดสารเสพติดออกจากร่างกาย เป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยคุณประเมินได้ว่า สิ่งที่ผู้เสพติดจะพูดเพื่อโน้มน้าวให้คุณเชื่อเพื่อนำพวกเขาออกจากสถานบำบัดก่อนกำหนดนี้เกิดมาจากอะไร และหาวิธีการรับมือกับปัญหานี้อย่างสร้างสรรค์

เผชิญหน้ากับความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้น

คุณอาจรู้สึกปวดหัวจนเหมือนจะระเบิด หัวใจเต้นแรง และความคิดก็กระเจิดกระเจิงไปหมด เมื่อได้ยินคนที่คุณรักโทรหา และบอกอย่างแน่วแน่ว่าต้องการออกจากสถานบำบัดเดี๋ยวนี้ โดยเหตุผลที่ผู้เสพติดมักยกมาพูดในการเรียกร้องที่จะออกจากสถานบำบัดก่อนกำหนดนั้นมีทั้ง…

  • “ฉันทำไม่ได้”
  • “ฉันยังไม่พร้อม”
  • “ที่นี่สถานที่ไม่สะอาดเลย”
  • “อาหารที่นี่แย่มาก”
  • “เจ้าหน้าที่ ที่นี่ทำงานไม่ได้เรื่อง”
  • “คนที่อยู่ที่นี่ใจร้ายมาก แล้วก็ทำกับฉันไม่ดีเลย”
  • “ทุกคนที่นี่ยังใช้ยากันอยู่เลย”
  • “ฉันเลิกยาได้แล้ว ฉันอยากกลับบ้าน”
  • แล้วก็อื่นๆ อีกมากมาย…

ส่วนใหญ่แล้วการล้างพิษยาเสพติดออกจากร่างกาย (drug detox) นั้น ทำให้เกิดการตอบสนองทางอารมณ์ที่รุนแรงหลายอย่าง ซึ่งผลักดันให้เกิดความต้องการที่จะออกจากสถานบำบัด สิ่งที่พบกันบ่อยก็คือ

  • ความกลัวและอาการเนื่องจากการถอนยา 

นี่เป็นสิ่งที่พบได้บ่อยที่สุดในช่วงสองสามวันแรกของการเข้าสถานบำบัด ความรู้สึกไม่สบายทางร่างกาย ซึ่งเป็นผลมาจากการถอนยา และการคิดว่าสารเสพติดได้หายออกจากร่างกายไปแล้วจริงๆ สามารถส่งผลให้คนที่คุณรักขอร้อง อ้อนวอน ขู่เข็ญ หรือให้สัญญาต่างๆ นานาเพื่อที่จะได้กลับบ้านโดยเร็ว

  • ความมั่นใจแบบผิดๆ 

เมื่อผ่านช่วงของการถอนยามาแล้ว และเริ่มที่จะเข้าสู่ช่วงของการบำบัด พวกเขาก็สรุปว่าตัวเองหายดีแล้ว และไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ที่นี่ต่อไปแม้แต่นาทีเดียว ถึงแม้ว่ายังอยู่ที่นั่นไม่ถึงเวลาขั้นต่ำที่จำเป็นในการบำบัดคือ 30 วันก็ตาม

  • ความต้องการที่จะกลับไปใช้ยาอีกครั้ง

เมื่อกลับมามีสติอีกครั้ง ปัญหาและบาดแผลทางใจอันเจ็บปวดที่ผู้เสพติดพยายามหลีกเลี่ยงด้วยการใช้สารเสพติดก็กลับมาอีก และนั่นเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เกิดความต้องการอย่างรุนแรงที่จะกลับไปใช้ยาเสพติด และทำให้พวกเขาหันกลับไปใช้วิธีการเก่าแก่ที่ตัวเองเคยชิน นั่นก็คือการโกหกและหลอกลวงต่างๆ นานาเพื่อที่จะออกจากสถานบำบัดให้ได้

วิธีรับมือกับข้อเรียกร้องที่จะออกจากสถานบำบัดก่อนกำหนด

คุณได้ยินคำขอร้องและคำสั่งของคนที่คุณรักแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาคุณที่จะตอบสนองกับมัน ขั้นแรกหายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบใจเอาไว้ ทำจิตใจให้มั่นคงที่สุด จากนั้นลองบอกกับพวกเขาว่า “เธออยู่ที่สถานบำบัดมาได้ตั้งหลายวันแล้ว ลองรอต่อไปอีกสัก 24 ชั่วโมงนะ ฉันจะหาสถานที่บำบัดผู้ติดยาเสพติดใหม่ให้เธอเอง เธอจะได้ไปรักษาตัวให้เสร็จๆ ที่นั่น”

คำพูดนี้เป็นคำพูดที่สร้างสรรค์ด้วยหลายเหตุผลด้วยกัน อย่างแรกก็คือ มันทำให้คนที่คุณรักและผู้ที่ทำงานที่สถานบำบัดมีเวลาที่จะจัดการกับความรู้สึกอันหมดหวังนี้ ส่วนใหญ่แล้ว ความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะออกจากสถานบำบัดเช่นนี้จะหายไปเอง และคนที่คุณรักก็จะกลับไปสู่การบำบัดได้ด้วยตัวเอง

นี่ยังให้เวลาคุณที่จะโทรหาเจ้าหน้าที่ของสถานบำบัดที่จะสามารถช่วยได้ เพื่อค้นหาว่าอะไรเกิดขึ้นจริงๆ และจัดการกับสิ่งนั้น ฟังความเห็นของมืออาชีพจากมุมมองที่เป็นกลาง และชั่งน้ำหนักของสถานการณ์นั้น โดยควรจำไว้ด้วยว่า การเสพติดทำให้คนเราไม่ซื่อสัตย์และหลอกลวงคนอื่น ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ต้องรับความช่วยเหลือจากมืออาชีพ การทำความเข้าใจกับสถานการณ์นี้ด้วยตัวเองจะช่วยให้คุณมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเองเกี่ยวกับการบำบัดของคนที่คุณรักได้

เมื่อมีการเรียกร้องอย่างต่อเนื่อง

ในการบำบัด ผู้เสพติดส่วนใหญ่จะสามารถผ่านช่วงที่อยากออกจากสถานบำบัดได้ภายในเวลาราว 24 ชั่วโมง สำหรับผู้ที่ไม่สามารถผ่านช่วงนี้ไปได้ หรือปฏิเสธที่จะรอนานขนาดนั้น เป็นไปได้ว่าพวกเขาอาจปรารถนาที่จะกลับไปใช้ยาเสพติดอีก ซึ่งคุณก็ต้องลองงัดกลยุทธ์ทุกอย่างมาใช้ เพื่อให้คนที่คุณรักรับการบำบัดต่อไป อย่างเช่นหากคุณเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เขา ให้ที่อยู่อาศัย ช่วยเหลือเรื่องงานหรือปัญหาทางด้านกฎหมาย หรือเป็นที่ปรึกษาปัญหาทางจิตใจมาโดยตลอด ก็ต้องหยิบยกเรื่องพวกนี้ขึ้นมาพูด และเตือนว่าสุขภาพและความมีสติของพวกเขาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคุณ หรือคุณอาจลองใช้วิธีอื่นให้การช่วยให้คนที่คุณรักผ่านช่วงเวลาอันท้าทายนี้ไปให้ได้ อย่างเช่น

  • ลองหาทางเลือกอื่น 

หากสถานบำบัดมีปัญหาที่ทำให้คนที่คุณรักไม่สบายใจจริงๆ ก็ยังมีสถานบำบัดยาเสพติด เอกชน อื่นที่อาจทำให้คนที่คุณรักได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างออกไป ลองค้นหาสถานบำบัดอื่นๆ ที่ตรงกับข้อเรียกร้องของเขา และสามารถให้ความมั่นใจได้ว่าพวกเขาจะได้สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ต่อไปในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมีความเป็นมืออาชีพ

  • แสดงความเห็นอกเห็นใจแต่ต้องหนักแน่น 

การเสพติดหมายความว่าคนที่คุณรักกำลังเจ็บป่วยด้วยโรคที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบที่ยาวนาน การเสพติดทำให้สมองเปลี่ยนแปลงไป และต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเพื่อสร้างกลไกการรับมือกับชีวิตและนิสัยที่ดีต่อสุขภาพขึ้นมาใหม่ ดังนั้น คุณควรแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจพวกเขา แต่ยังคงต้องแสดงออกอย่างหนักแน่นว่า พวกเขาจำเป็นต้องรักษาและฟื้นฟูตัวเองอย่างต่อเนื่อง

  • ทบทวนข้อดีและข้อเสีย 

ลองพิจารณาเรื่องนี้จากมุมมองต่างๆ ดูบ้าง อย่างเช่น พวกเขาต้องสูญเสียอะไรไปบ้างจากการเสพติดของตัวเอง สถานการณ์ของพวกเขาเป็นแบบไหนกันแน่ พวกเขาจะได้รับอะไรจากการรักษาตัวจนเสร็จสิ้นกระบวนการและมีสติขึ้นมาอีกครั้ง การพูดคุยหรือเขียนถึงมุมมองต่างๆ เหล่านี้ออกมาจะสามารถช่วยกำหนดขั้นตอนต่อไปได้

  • เปิดเผยความรู้สึก 

บนเส้นทางของการต่อสู้ของคนที่คุณรักเพื่อที่จะมีสติขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งนั้น พวกเขาต้องเผชิญกับอารมณ์ที่รุนแรงหลากหลายอย่าง เขาอาจรู้สึกเศร้าอยู่ลึกๆ ที่ต้องเลิกราจากยาเสพติด และในขณะเดียวกันรู้สึกละอายที่รู้สึกเช่นนั้น พวกเขาอาจโกรธผู้ที่เปิดเผยความลับของตัวเอง หรือโกรธตัวเองที่ต้องมาอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ พวกเขายังมีแนวโน้มที่จะกลัวการเผชิญหน้ากับความจริงที่การเสพติดทำให้พวกเขาเพิกเฉยต่อมันได้ การเจาะลึกลงไปในความรู้สึกของพวกเขาและพยายามทำความเข้าใจสามารถช่วยทำให้เข้าใจได้กระจ่างชัดมากขึ้นว่า ควรจะดำเนินการต่อไปอย่างไร

การออกจากสถานบำบัดก่อนกำหนดไม่เพียงแต่เป็นอันตรายต่อการกลับไปใช้ยาเสพติดอีกครั้งและยังเพิ่มความเสี่ยงในการเสพยาเกินขนาดได้ สิ่งที่คุณสามารถทำได้ คือ ขอความช่วยเหลือหรือรับคำแนะนำจากที่ปรึกษาในการบำบัดของพวกเขา เพื่อให้พวกเขารับการบำบัดรักษาต่อไป จะทำให้คนที่คุณรักมีโอกาสที่จะอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไปได้

การบำบัดและการฟื้นฟูตัวตนใหม่ที่เดอะดอว์น

สถานบำบัดยาเสพติด เอกชน เดอะดอว์น เชียงใหม่ เราดูแลผู้เข้ารับการบำบัดอย่างใกล้ชิด

สถานบำบัดยาเสพติด เอกชน เดอะดอว์น เชียงใหม่ เราดูแลผู้เข้ารับการบำบัดอย่างใกล้ชิด เพื่อสร้างแผนการที่เหมาะสมกับลักษณะการณ์เฉพาะของแต่ละบุคคลในการเอาชนะการเสพติด ด้วยวิธีการรักษาตามแนวทางการบำบัดแบบองค์รวม ซึ่งได้แก่การผสมผสานเทคนิคจิดบำบัดแบบตะวันตกที่มีประสิทธิภาพสูง กับการพัฒนาสุขภาวะแบบองค์รวมที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีในการเยียวยาทั้งร่างกายและจิตใจ

เดอะดอว์นมีหลักสูตรการบำบัดภาวะเสพติดที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สำหรับผู้ที่มีปัญหาการเสพติด ทั้งการติดยาเสพติดต่างๆ ติดการพนัน และโรคร่วม โดยเป้าหมายพื้นฐานของหลักสูตรก็คือ เพื่อให้ผู้รับการรักษาประสบความสำเร็จในการเลิกยาเสพติดและสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ในระยะยาว 

การบำบัดของเราดำเนินการโดยทีมที่ปรึกษาและนักจิตวิทยามืออาชีพ ที่ได้รับการฝึกอบรมเป็นอย่างดี มีประสบการณ์และความเข้าอกเข้าใจในเรื่องการเสพติด 

หากคุณสนใจพาคนที่คุณรักเข้าบำบัดในสถานบำบัดยาเสพติด กินนอน ติดต่อแผนกแรกรับของเราวันนี้ เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่เราจะเปลี่ยนแปลงชีวิตให้แก่คนที่คุณรักได้

ประกาศ

ณ ปัจจุบัน ศูนย์ของเรา ได้ยุติการให้บริการบำบัดภาคภาษาไทย

เดอะดอว์นขอขอบคุณทุกความไว้วางใจมา ณ ที่นี้

ให้เราช่วยคุณเริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาวะที่ดีตั้งแต่วันนี้

โทร: 083 204 8384