เรียนรู้ 7 ข้อเท็จจริงที่อันตรายของการเสพติดยาเคหรือเคตามีน

“ยาเค” ที่ “ไม่โอเค” กับ 7 ข้อเท็จจริงสุดอันตรายของการเสพติดเคตามีน

เคตามีน ยาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มความสนุกจอมปลอม และสิ่งที่ตามมาก็คือปัญหาอันหนักหนาสาหัส ที่อาจถึงกับคร่าชีวิตของคุณได้เลย

ในขณะที่หลายคนอาจไม่รู้สึกว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใกล้ตัว แต่มันก็อาจไม่ได้อยู่ไกลจากเราอย่างที่คิดก็เป็นได้ เพราะยาเสพติดในปัจจจุบันแปลงโฉมมาหลายรูปแบบ อย่างเช่นยาเสพติดที่เรียกกันว่า “Club Drugs” ซึ่งนิยมใช้ตามคลับตามบาร์ หรือในงานปาร์ตี้ ด้วยความเชื่อที่ว่ามันสามารถเพิ่มความสนุกในการสังสรรค์ให้ได้

แต่จากข่าวพาดหัวในหน้าหนังสือพิมพ์ ซึ่งเป็นที่ฮือฮาเมื่อไม่นานมานี้ ถึงการเสียชีวิตของวัยรุ่นจากการเสพยาที่เรียกว่าเคนมผงก็คงกระตุกให้คนในสังคมเริ่มหันมาตระหนักได้ว่า อันตรายของยาเสพติด โดยเฉพาะยาที่ใช้เสพเพื่อเพิ่มความสนุกชั่วคราวนั้น อาจอยู่ใกล้กับคนที่เรารักได้มากกว่าที่คิดจริงๆ

และยาเคซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของเคนมผงก็เป็นหนึ่งใน Club Drugs ที่กำลังสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในขณะนี้

“ยาเค” คืออะไร

นอกจากชื่อยาเคแล้ว ยาเสพติดชนิดนี้ยังมีชื่อเรียกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Special K, Vitamin K, super acid, super c, bump, cat Valium, kitkat, super K และ jet

แต่ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ชื่ออะไร พื้นฐานของยาชนิดนี้ก็คือเคตามีน” (Ketamine) หรือชื่อทางการค้าว่า เคตาวา (Ketava) หรือเคตาลา (Ketalar) เป็นยาที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ซึ่งแพทย์นำมาใช้ในกระบวนการดมยาสลบ โดยตามพระราชบัญญัติวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท .. 2518 เคตามีนจัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ถือเป็นยาที่มีอันตรายสูง ซึ่งแพทย์จะจ่ายให้กับผู้ป่วย เฉพาะเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น

ยาเค..ทำให้เกิดอะไรขึ้นกับเรา

ยาเคที่นำมาใช้ในการเสพติด มักอยู่ในรูปของเหลวหรือผงสีขาวหรือขาวขุ่น ที่นำมาสูดดมหรือผสมกับเครื่องดื่ม โดยยาเคจะไร้กลิ่น ไร้สี ไร้รส จึงสามารถนำเอามาผสมในเครื่องดื่มได้โดยที่ผู้ดื่มไม่รู้ตัว ทำให้มีรายงานการนำไปใช้เป็นยาเสียสาว” (date-rape drug) ซึ่งนอกเหนือจากจะทำให้เหยื่อไม่สามารถเคลื่อนไหวได้แล้ว ยังทำให้ไม่อาจทวนความจำถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่อยู่ใต้ฤทธิ์ยาด้วย

เนื่องจากเคตามีนมีฤทธิ์ต่อจิตประสาทยาเคจึงออกฤทธิ์หลอนประสาทอย่างรุนแรง ทำให้รู้สึกเคลิบเคลิ้ม (Euphoria) รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจพิเศษ (Mystical) หลายคนถึงขั้นพูดว่าเหมือนวิญญาณออกจากร่างไปหาความสุข เสร็จแล้วค่อยกลับเข้าร่าง 

ระสบการณ์เช่นนี้เรียกกันว่า “k-hole” ซึ่งจริงๆ แล้วก็คือ ฤทธิ์ของยาทำให้ระดับสารเคมีในสมองเสียสมดุล และบิดเบือนความรู้สึกของผู้เสพ โดยจะมีฤทธิ์มึนเมาอยู่ในช่วงเวลาสั้นๆ ราวหนึ่งถึงสองชั่วโมง

สถานการณ์ยาเค..ที่ต้องเฝ้าระวัง

ยาเคเป็นยาในกลุ่ม NPS (New Psychoactive Substances) หรือสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทใหม่ ซึ่งในรายงานของ วารสารการพัฒนาสุขภาพชุมชน มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อปี 2560 ชี้ว่ามีความน่ากลัวไม่น้อยกว่ายาเสพติดชนิดอื่นๆ ผู้ใช้สาร NPS ส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นยาเพิ่มความสนุก ที่ไม่เป็นอันตรายหรือมีผลข้างเคียงร้ายแรง ในสหรัฐฯ การแพร่ระบาดของสาร NPS พบในกลุ่มประชากรวัย 12-34 ปี โดยพบว่ามีความชุกเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 11.4 ในปี 2011 เป็นร้อยละ 15.2 ในปี 2015

สำหรับในประเทศไทย จากการสำรวจของสำนักงาน ปปส เมื่อปี 2559 พบว่าคนไทยเคยเสพยาเคประมาณ 22,218 คน และจัดเป็นยาเสพติดที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะพบการแพร่ระบาดสูงขึ้น โดยศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 6 ชลบุรี พบว่า มีการนำเอาเคตามีนในรูปสารละลาย มาบรรจุขวดและระบุเป็นผลิตภัณฑ์อื่น เช่น น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ น้ำยาละลายขี้หู เป็นต้น เพื่อให้ง่ายแก่การลักลอบขนส่งและขาย รวมถึงมีการสั่งซื้อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ทำให้การแพร่หลายเป็นไปได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

ทำไมยาเคถึงอันตรายนัก

ถึงแม้นักเสพจะใช้ยาเคเพื่อเพิ่มความสนุก แต่ด้วยฤทธิ์และผลข้างเคียงอันรุนแรงของเคตามีน ทำให้ยาเคส่งผลเสียที่เป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจในหลายๆ เรื่อง และนี่คือ 7 เรื่องอันตรายของยาเคที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน

1. อันตรายต่อระบบทางเดินหายใจและหัวใจ

การใช้ยาเคในปริมาณมากจะทำให้เกิดการติดขัดในการหายใจ (Respiratory depression) ซึ่งอาจทำให้ระบบหายใจล้มเหลว และอาจถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ยังเร่งอัตราการเต้นของหัวใจ ทำให้ความดันสูงขึ้น

2. อันตรายต่อระบบทางเดินปัสสาวะ 

เนื่องจากฤทธิ์กัดกร่อนของสารเคมี ที่ไหลผ่านไตและทางเดินปัสสาวะ ทำให้เกิดกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ทำให้กลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ปัสสาวะมีเลือดออก และมีอาการปวดขณะปัสสาวะ แม้แต่ผู้ที่ใช้ยาเคเป็นครั้งคราว ก็รายงานถึงอาการปวดขณะปัสสาวะ สำหรับผู้ที่เสพอย่างต่อเนื่อง ในเพียงไม่กี่เดือนกระเพาะปัสสาวะก็แทบจะถูกทำลายได้

3. อันตรายต่อสมอง

ฤทธิ์หลอนประสาทของยาเคไม่เพียงแต่ทำให้เกิดผลเสียต่อจิตใจ แต่งานวิจัยชี้ว่าการใช้ยานี้อย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการทำงานของสมอง ทำให้สมองเสื่อม ความจำเสื่อม การรับรู้ของสมองเสื่อมถอยลง ซึ่งอาจเกิดได้อย่างถาวร

4. การเคลื่อนไหวของร่างกายผิดปกติ

การเสพยาเคอย่างต่อเนื่องส่งผลให้กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง การเคลื่อนไหวของร่างกายจึงทำงานไม่สอดประสานกัน เกิดอาการเดินเซ หกล้มได้ง่าย ซึ่งนี่ยังรวมไปการพูดและการมองเห็น ที่ทำใหเกิดอาการลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด และสายตาพร่าเลือนอีกด้วย

5. ยาเคเสพติดได้ง่ายกว่าที่คิด

เนื่องจากยาเคจะมีฤทธิ์ค่อนข้างสั้น ผู้เสพจึงอาจที่จะเสพซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้สัมผัสกับภาวะมึนเมานานขึ้น ยิ่งใช้บ่อยก็ยิ่งทำให้ก้าวเข้าสู่การพึ่งพิงยา จนทำให้เกิดการเสพติดได้ง่ายขึ้น

6. การใช้ยาเกินขนาดเกิดขึ้นได้ง่ายมาก

ยาเคส่งผลต่อผู้ใช้แตกต่างกัน และไม่สามารถคาดเดาได้ว่าต้องใช้ปริมาณเท่าไหร่เพื่อให้ได้ความมึนเมาเท่าเดิม จึงมักจะนำไปสู่การใช้ยาเกินขนาดหรือโอเวอร์โดสได้ง่าย หรือบางทีการใช้ยาเกินขนาดสามารถเกิดขึ้นได้จากการใช้ยาเคเล็กน้อย หากใช้ร่วมกับยาอื่นหรือแอลกอฮอล์

7. คุณสามารถลงเอยด้วยการเป็นคนวิกลจริต

เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฤทธิ์หลอนประสาทของยาเคสามารถทำให้ผู้เสพประสพกับสภาวะโรคจิต จนกลายเป็นคนวิกลจริตได้ในที่สุด

สังเกตอย่างไรว่า..ใครอาจใช้เคตามีน

การนำเคตามีนมาใช้ในทางที่ผิดส่งผลต่อผู้คนแตกต่างกัน สัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าคนๆ นั้นอาจกำลังใช้เคตามีนอยู่ก็อย่างเช่น

  • ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่อาจสังเกตได้ เช่น 
    • มีรอยแดงบนผิว 
    • พูดไม่ชัดแบบคนลิ้นแข็ง 
    • มีปัญหาในการพูด ลูกตากรอกไปมา
    • สูญเสียความสมดุลของการทรงตัวและการเคลื่อนไหว
  • ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ เช่น 
    • หงุดหงิด 
    • กระสับกระส่าย 
    • มีอาการสับสนมึนงง 
    • อารมณ์แปรปรวน 
    • มีอาการซึมเศร้า
  • ความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม เช่น 
    • นอนไม่หลับ 
    • ละทิ้งความรับผิดชอบเรื่องการเรียนหรือการทำงาน
    • ละทิ้งเพื่อนฝูงและครอบครัว  

อยากเลิกยาเค..เริ่มต้นอย่างไร

การเสพติดเคตามีนเป็นสิ่งที่ยากจะเอาชนะ ถึงแม้คนๆ นั้นอยากที่จะหยุดใช้ยาก็ตาม การเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมองทำให้เกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะหยุดใช้ยาโดยปราศจากความช่วยเหลือจากมืออาชีพ

การถอนพิษยาเคเป็นขั้นตอนแรกในกระบวนการรักษา เพื่อให้ยาถูกขับออกจากระบบของผู้ใช้ การหยุดใช้ยาเป็นกระบวนการถอนพิษยาซึ่งค่อนข้างทรมาน ทั้งทางร่างกายและจิตใจ นอกจากนี้ อาการทางจิตที่เกิดขึ้นในช่วงการถอนพิษยาที่อันตรายที่สุดก็คือ อาการซึมเศร้าอย่างรุนแรง

อาการของการถอนพิษยา ที่พบกันส่วนใหญ่ได้แก่

  • ซึมเศร้า วิตกกังวล
  • กระสับกระส่าย
  • สับสนมึนงง
  • ประสาทหลอน
  • สูญเสียความสมดุลของการเคลื่อนไหว
  • โมโหฉุนเฉียวรุนแรง
  • คลื่นไส้
  • การทำงานของระบบหายใจและหัวใจเพิ่มขึ้น
  • นอนไม่หลับ ฝันร้าย
  • ร่างกายสั่นเทา หนาวสั่น หรือเหงื่ออกมาก
  • อ่อนเพลีย
  • ไม่อยากอาหาร

ช่วงเวลาของการถอนพิษยาเคอาจกินเวลาตั้งแต่ 72 ชั่วโมงไปจนถึงหลายสัปดาห์ อาการมักจะเกิดขึ้นในช่วง 24-72 ชั่วโมงหลังยาโดสสุดท้าย และจะอยู่นานแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปริมาณยาในร่างกายของผู้เสพติด ระดับความดื้อยา ระยะเวลาที่ใช้ รวมถึงมีการใช้ยาอื่นร่วมด้วยหรือไม่

การบำบัดรักษาการเสพติดยาเคอย่างได้ผล

ถึงแม้การติดยาเคตามีนจะเอาชนะได้ค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่ผู้เสพมักจะมีโรคทางอารมณ์อย่างอื่นร่วมด้วย หรือมีการใช้ยาอื่นๆ แต่ก็ยังมีทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการรักษา มีทั้งการบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavioral Therapy – CBT) ในรูปแบบการบำบัดรายบุคคลและการบำบัดแบบกลุ่ม หรืออาจมีการใช้ยาเพื่อรักษาอาการทางจิตเวชที่เป็นโรคร่วมด้วย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาการรักษาตั้งแต่ 28 วันไปจนถึงหลายเดือนก็ได้ โดยการรับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะให้แน่ใจถึงความสำเร็จในการฟื้นฟูผู้เสพติด

ศูนย์บำบัดเคตามีน เดอะดอว์น เชียงใหม่ ช่วยคุณได้อย่างไร

ศูนย์บำบัดยาเสพติด เดอะดอว์น เชียงใหม่ ช่วยผู้ติดยาเสพติดเลิกยาเค แบบครบคลุมในที่แห่งเดียว

ศูนย์บำบัดเคตามีน เดอะดอว์น เชียงใหม่ มีหลักสูตรเลิกยาเคที่มีคุณภาพและถูกหลักวิชา บุคลากรของเรามีความช่ำชองในการช่วยผู้ที่ติดยาเคให้เลิกเสพ และสามารถก้าวข้ามผลเสียที่เกิดจากการเสพยาชนิดนี้ได้

หลักสูตรการรักษาของเราเน้นแก้ปัญหาที่เป็นต้นตอของการเสพติด เพื่อให้คุณควบคุมความคิดและความรู้สึกของตัวเองได้ โดยไม่ต้องพึ่งสิ่งเสพติด คุณจะได้เรียนรู้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้คุณหันไปใช้ยา และจะได้เรียนรู้วิธีการป้องกันไม่ให้ตัวเองกลับไปเสพอีกนอกจากนี้คุณยังจะได้ฝึกทักษะที่นำไปใช้รับมือกับความเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย

คุณสามารถเอาชนะการเสพติดยาเคตามีนได้ อย่าเสียเวลาในชีวิตแม้แต่อีกนาทีเดียวไปกับการติดยาเคตามีน และเริ่มต้นก้าวแรกของการฟื้นฟูตั้งแต่เดี๋ยวนี้ 

ติดต่อแผนกแรกรับของเราวันนี้ เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนสู่การเข้ารับบำบัดที่ศูนย์ของเรา 

รู้หรือไม่ “เคนมผง” อันตรายถึงชีวิตที่อาจเกิดขึ้นได้แม้เสพครั้งแรก!

ยาเค...ว่าอันตรายแล้ว แต่ในตอนนี้ ที่อันตรายยิ่งขึ้นไปอีกก็คือเคนมผงซึ่งพล...ธนิต จิรนันท์ธวัช นายแพทย์หัวหน้ากลุ่มงานพยาธิวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เผยว่า ส่วนประกอบของยาเคนมผงที่มีการนำมาใช้เสพและพบอันตรายถึงชีวิตนั้น เป็นการนำยาเคมาผสมร่วมกับยาเสพติดอื่น ได้แก่ ยาไอซ์ เฮโรอีน และยานอนหลับที่เรียกว่าโรเซ่นำมาบดรวมกันจนละเอียดคล้ายนมผง จึงเป็นที่มาของชื่อเคนมผง

เนื่องจากเป็นการผสมยาออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทรุนแรงหลายตัวร่วมกัน จึงทำให้เกิดการเสริมฤทธิ์ของยา ทำให้ผลข้างเคียงต่างๆ ของยาเคเพิ่มมากขึ้น จากการศึกษาของต่างประเทศพบว่า การใช้ยาเคร่วมกับยาอื่น ทำให้พบผู้เสพใช้ยาเกินขนาดได้มากขึ้น จนทำให้เสียชีวิตจากฤทธิ์กดการหายใจ หรือฤทธิ์รบกวนการทำงานของหัวใจ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ แม้จะเพิ่งเสพเป็นครั้งแรกก็ตาม

ประกาศ

ณ ปัจจุบัน ศูนย์ของเรา ได้ยุติการให้บริการบำบัดภาคภาษาไทย

เดอะดอว์นขอขอบคุณทุกความไว้วางใจมา ณ ที่นี้

ให้เราช่วยคุณเริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาวะที่ดีตั้งแต่วันนี้

โทร: 083 204 8384