หากกำลังกังวลว่าคนที่คุณรักอาจกำลังติดยาเสพติด มาทำความรู้จักกับ 4 ขั้นตอนของการติดยาเสพติด เพื่อที่คุณจะได้รู้จักกับสัญญาณเตือน และสิ่งที่คุณสามารถทำได้
มีหลากหลายปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการติดยาเสพติด ทั้งปัจจัยทางพันธุกรรมและอิทธิพลจากสภาพแวดล้อม สถานะทางเศรษฐกิจและสังคม รูปแบบพฤติกรรมส่วนตัว ฯลฯ แต่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการเสพติดส่วนใหญ่ ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เส้นทางสู่การติดยาเสพติดนั้นมีอยู่ 4 ขั้นตอนหลักๆ ก็คือ การทดลอง การเสพเป็นประจำ การเสพแบบมีความเสี่ยงสูง และการเสพติดแบบเต็มรูปแบบ
คนส่วนใหญ่มักไม่ค่อยข้ามผ่านขั้นที่ 1 ของการทดลองไป แต่คนที่ก้าวไปสู่ขั้นที่ 2 ส่วนใหญ่ จะพัฒนาไปสู่การเสพติดเกือบทั้งสิ้น ต่อไปนี้ เป็นรายละเอียด 4 ขั้นตอนสู่การเสพติด เพื่อที่คุณจะได้สามารถแยกแยะอาการและสัญญาณเตือนของการเสพติดได้ หรือในกรณีที่ก้าวข้ามไปสู่การเสพติดแล้ว คุณจะสามารถทำอะไรได้บ้าง
ขั้นที่ 1 การทดลองเสพยา
ถึงแม้อาจไม่จำเป็นที่จะนำไปสู่การเสพติดอย่างเต็มรูปแบบ แต่การทดลองยาเสพติดก็ถือเป็นขั้นต้นของการเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ที่อายุน้อย การทดลองยาเสพติดมักจะได้รับการยอมรับ หรือบางครั้งก็ได้รับการสนับสนุน แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องจำไว้ว่า การทดลองยาเสพติดอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นวัยรุ่นที่มีปัจจัยเสี่ยงบางประการต่อการเสพติด การทดลองยาเสพติดอาจเป็นหนทางไปสู่การใช้สารเสพติดในทางที่ผิดอย่างต่อเนื่องในระยะยาวได้ในอนาคต
การทดลองในผู้ใหญ่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อมีการเข้าสังคมกลุ่มใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนงานใหม่ ที่วัฒนธรรมของคนทำงานอาจยอมรับการเสพยาเสพติด หรือสนับสนุนการเสพยา ไม่ว่าเวลาหรือเหตุผลในการเริ่มลองเสพยาจะเป็นอย่างไร ควรพิจารณาการเสพติดในทุกกรณีตามพื้นฐานของแต่ละคนไป ตัวอย่างเช่น หากมีผู้ชักนำไปสู่การเสพยาเสพติดในช่วงเวลาที่คนๆ นั้นกำลังอยู่ในภาวะเปราะบางทางจิตใจ ก็มีโอกาสอย่างมากที่จะมีการเสพยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง และพัฒนาไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรงขึ้น หรือหากการทดลองใช้ยาเสพติดส่งผลในเชิงบวกสำหรับคนผู้นั้น เช่น ทำให้ได้รับการยอมรับในกลุ่มสังคม ช่วยผ่อนคลายความเครียด เป็นต้น แรงขับในเชิงบวกสำหรับคนผู้นั้น ก็อาจผลักดันให้คนๆ นั้นเข้าสู่ขั้นต่อไปได้อย่างง่ายดาย
ขั้นที่ 2 การเสพเมื่อเข้าสังคมหรือเสพเป็นประจำ
ในหลายๆ กรณี ขั้นที่ 2 นี้เป็นเสมือนทางแยกสำหรับคนจำนวนมาก ในขณะที่เป็นความจริงที่ว่า บางคนสามารถใช้ยาเป็นประจำโดยไม่เกิดการติดยาเสพติด แต่ความเสี่ยงในการใช้สารเสพติดในทางที่ผิด ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากในขั้นนี้ เนื่องจากการเสพเป็นประจำ ทำให้เป็นไปได้อย่างมากที่จะมีส่วนร่วมในพฤติกรรมที่มีความเสี่ยงสูง อย่างเช่นการขับรถในขณะอยู่ภายใต้อิทธิพลของยา อารมณ์แปรปรวน หรือมีอาการซึมเศร้า
ในระหว่างขั้นตอนนี้ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะต้องจับตาดูความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์หรือพฤติกรรม การจัดลำดับความสำคัญที่เปลี่ยนแปลงไป หรืออาการของการเสพติดระยะต้นที่ปรากฏทางร่างกาย การตีตัวออกห่างจากคนในครอบครัวหรือเพื่อน ปัญหากับการจำกัดปริมาณยาที่ใช้ (ไม่ใช่เพียงแค่ครั้งเดียว) หรือการห้ามปรามจากเพื่อนหรือครอบครัวที่ไม่เป็นผล คนที่อยู่ในขั้นนี้อาจเกิดความกังวลหรือความรู้สึกอายต่อพฤติกรรมของตัวเอง แต่โดยทั่วไปแล้ว ก็มักจะยังคงหาเหตุผลให้ตัวเอง หรือหาข้อแก้ตัวอยู่
ขั้นที่ 3 การเสพแบบมีความเสี่ยงสูง
ความต่อเนื่องจากขั้นที่ 2 สู่ขั้นที่ 3 อาจเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และอาจยากที่จะจับได้ในตัวเองหรือคนที่คุณรัก ในขั้นนี้ ผู้เสพยาเสพติดจะเริ่มให้ความสำคัญกับการเสพยาเสพติดเป็นลำดับแรก มากกว่าส่วนอื่นๆ ของชีวิต และเริ่มไม่รู้ตัวหรือไม่กลัวผลที่ตามมาจากพฤติกรรมของตัวเอง สัญญาณเตือนของการเสพติดในขั้นที่ 3 ก็คืออาการอยากเสพยา ที่ปรากฎทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาการเครียด หงุดหงิด หรือไม่มีแรง หากไม่ได้เสพยา
แรงผลักดันจากความสุขที่ได้จากฤทธิ์ยาในขั้นที่ 1 และ 2 สามารถผลักดันผู้เสพเข้าสู่ขั้นที่ 3 ได้ เหตุผลทางชีววิทยาก็คือ การได้รับสารเสพติดเป็นประจำจะทำให้ผู้เสพเกิดอาการไวต่อฤทธิ์ยามาก ซึ่งหมายความว่าคนๆ นั้นจะมีความรู้สึกมีความสุขมากขึ้นเป็นพิเศษ ในครั้งถัดไปที่พวกเขาเสพสารเสพติด
อาการไวต่อฤทธิ์ยานี้จึงกลายมาเป็นแรงจูงใจในการเพิ่มปริมาณยาหรือจำนวนครั้งในการเสพเพราะเปรียบเสมือนรางวัลที่ทำให้ร่างกายรู้สึกดี และร่างกายก็จะเริ่มต้องการยาในปริมาณที่มากขึ้น และเกิดความอยากเสพยาซ้ำๆ ตลอดเวลา ความต้องการทางร่างกายต่อยาเสพติดผสมกับความโหยหาทางจิตใจ ทำให้เป็นเส้นทางไปสู่การเสพติดและพึ่งพายาเสพติดอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะเกิดขึ้นในขั้นที่ 4
ขั้นที่ 4 การเสพติดและพึ่งพายาและสารเคมีอย่างเต็มรูปแบบ
การพึ่งพายาและสารเคมีอย่างเต็มรูปแบบ เป็นขั้นสุดท้ายของการติดยาเสพติด ลักษณะของขั้นนี้มีทั้งการใช้ยาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเกิดผลเสียอย่างไรก็ตาม ทั้งผลกระทบร้ายแรงต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิต การไม่สามารถทำงานได้ หรือตกงาน หรือการกระทำอาชญากรรมต่างๆ
ความสัมพันธ์ส่วนตัวก็ตกอยู่ในอันตราย หรืออาจจบสิ้นลงได้เนื่องจากการเสพยา หากผู้เสพติดก้าวหน้ามาจนถึงขั้นที่ 4 และเข้าสู่การรักษา ก็มักจะเป็นผลมาจากการที่มีชีวิตตกต่ำถึงขีดสุด การถูกจับกุมหรือคุมขัง ประสบการณ์เฉียดตาย การสูญเสียคนที่รัก จนทำให้พวกเขาหันมาสู่การบำบัดรักษา
ในช่วงขั้นที่ 4 ผู้เสพติดจะมาถึงจุดที่พวกเขาไม่อาจจินตนาการได้เลย ในตอนที่พวกเขาเริ่มทดลองเสพยาครั้งแรก แม้พวกเขาตระหนักถึงปัญหาที่กำลังประสบอยู่จากการติดยา เค้าก็ไม่สามารถหรือไม่อยากที่จะเลิกยา การได้รับความช่วยเหลือและสนับสนุนจากครอบครัวและเพื่อนเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในช่วงนี้ แต่ความตึงเครียดทางอารมณ์ที่เกิดขึ้น ก็ทำให้บางครั้งแทบจะเป็นไปได้ยากยิ่ง
การบำบัดยาเสพติดแบบองค์รวม
โรคร้ายของการติดยาเสพติดมีแต่จะร้ายแรงขึ้น และทำให้ผู้เสพและคนรอบข้างแย่ลง ข่าวดีคืออาการนี้ยังสามารถรักษาได้ ในการรักษาอาการเสพติดยานั้น มีหลากหลายทางเลือกด้วยกัน แต่สิ่งสำคัญก็คือ ผู้เสพติดควรได้รับแผนการรักษาแบบองค์รวม โดยการใช้เทคนิคจิตบำบัด ควบคู่ไปกับ การออกกำลังกาย และควรมี ทีมงานผู้เชี่ยวชาญสหสาขาวิชาที่คอยดูแลและให้คำปรึกษาเพื่อให้ได้ผลการรักษาสูงสุด
ความจริงที่ว่าทุกคนที่ทดลองเสพยาเสพติดไม่ได้พัฒนาไปสู่การติดยาเสมอไป สื่อนัยให้เห็นว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณาว่า ทำไมจึงเกิดการเสพติด และการเสพติดเกิดขึ้นได้อย่างไร และเพื่อให้การรักษามีประสิทธิภาพที่สุด จึงต้องคำนึงถึงและจัดการกับปัจจัยเหล่านั้นด้วย
เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่จะต้องรับรู้ว่า การเสพติดไม่ได้เกิดผลกระทบเพียงต่อผู้เสพติดเท่านั้น หากส่งผลต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเขาด้วย บ่อยครั้งที่สมาชิกในครอบครัวและคนที่รักอื่นๆ ต้องดิ้นรนหาวิธีการของตนเองในการรับมือกับความเครียดที่เกิดจากผู้เสพติด ความสัมพันธ์ที่ร้าวฉาน และปัญหาของการอยู่ร่วมกัน
เลิกยาได้ที่ศูนย์บำบัดยาเสพติด เดอะดอว์น เชียงใหม่
เดอะดอว์น เชียงใหม่ เป็นศูนย์บำบัดยาเสพติด เอกชน ชั้นแนวหน้าที่ให้ความสำคัญในการเยียวยาทั้งผู้เสพและครอบครัว โดยครอบครัวจะได้รับคำปรึกษาเกี่ยวกับวิธีรับมือทั้งก่อนและหลังการบำบัด และผู้เสพจะรับการบำบัดตามแผนการรักษาซึ่งออกแบบตามคำวินิจฉัยของนักจิตวิทยาคลินิก
ศูนย์ของเราตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำปิง นอกตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ผู้เข้ารับการบำบัดจะพักในห้องพักส่วนตัวแบบเป็นสัดส่วน และมีทีมนักจิตวิทยาคลินิก ทีมพยาบาลและทีมสนับสนุนคอยดูแล หากคุณสนใจในการเข้ารับการบำบัดที่ศูนย์บำบัด เดอะดอว์น เชียงใหม่ ติดต่อแผนกแรกรับของเราวันนี้ เพื่อรับข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนสู่การเข้ารับบำบัดที่ศูนย์ของเรา