เรียนรู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ “โรคหลงตัวเอง” เพื่อช่วยคุณที่คุณรักได้จากบทความนี้

โรคหลงตัวเอง..ไม่ใช่แค่นิสัยแต่เป็นปัญหาสุขภาพจิตร้ายแรงที่ต้องรักษา

เดี๋ยวนี้ คนเรามักชอบ “ติดป้าย” เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตบางอย่าง ด้วยการใช้ถ้อยคำในเชิงลบที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับปัญหาทางสุขภาพจิตเหล่านี้ อย่างเช่นปัญหาความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorder) หรือ “โรคหลงตัวเอง” ที่มักได้รับการพูดถึงเชิงลบ โดยปราศจากความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับความผิดปกติทางจิตใจอันซับซ้อนนี้ ซึ่งสามารถทำให้เกิดอุปสรรคในการเข้ารับการรักษาสำหรับผู้ที่มีภาวะนี้

“อะไรๆ ก็ตัวเองทั้งนั้น เธอนี่มันหลงตัวเองจริงๆ”

หากคุณใช้ชีวิตอยู่กับใครสักคนที่แสดงอาการของความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองหรือ “โรคหลงตัวเอง” การแสดงความเห็นเช่นนี้สามารถทั้งทำร้ายจิตใจและทำให้เกิดความคับข้องใจ การที่บางคนแสดงอาการบางอย่างของการหลงตัวเองออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ยากที่จะเข้าใจได้อย่างแท้จริงต่อโรคนี้ ซึ่งบางครั้งเป็นอาการอันซับซ้อน และสามารถสร้างบาดแผลทางใจให้เกิดขึ้นได้ จนอาจหน่วงเหนี่ยวไม่ให้คนๆ นั้นขอรับความช่วยเหลือใดๆ

การยอมรับความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งก็คือการรับรู้ว่านี่เป็นโรคทางจิตใจที่ต้องรับการดูแล และการช่วยเหลือจากมืออาชีพ จึงเป็นสิ่งที่ทำให้มั่นใจได้ว่า ผู้ที่มีอาการดังกล่าวจะได้รับความช่วยเหลือที่จำเป็นต่อตัวเอง

โรคหลงตัวเองคืออะไร

ความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองหรือ “โรคหลงตัวเอง” (Narcissism) เป็นปัญหาสุขภาพจิต ไม่ใช่นิสัยหรือสิ่งที่พวกเขาเลือกจะเป็นเช่นนั้น ในการประพฤติตัว หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น โดยทั่วไปจะเริ่มสังเกตได้ในช่วงวัยรุ่น หรือวัยผู้ใหญ่ตอนต้น และสามารถทำให้เกิดความเครียดอย่างมากต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น รวมถึงต่อสำนึกในความมั่นใจในตัวเองที่เปราะบางอยู่แล้ว

ในขณะที่ผู้ใหญ่จำนวนมากแสดงแนวโน้มของโรคหลงตัวเองหนึ่งหรือสองอย่าง เช่น คาดหวังที่จะได้รับความรักและการยกย่องจากคู่ครอง หรือเห็นว่าตัวเองเก่งที่สุดในการทำงานของตัวเอง แต่สำหรับการวินิจฉัยอาการของโรคหลงตัวเองสำหรับมืออาชีพทางการแพทย์นั้น ต้องมีอาการที่ชัดเจนอย่างน้อย 5 ใน 9 อย่างที่บ่งชี้ถึงโรคนี้

นอกจากนี้แพทย์ยังต้องดูการแสดงออกของอาการอย่างต่อเนื่องในส่วนปฏิสัมพันธ์ต่างๆ กับผู้คนรอบข้าง เช่น ในการทำงาน การใช้ชีวิตที่บ้าน และในสัมพันธภาพแบบอื่นๆ ด้วย

อาการของโรคหลงตัวเอง

อาการที่พบได้บ่อยของโรคหลงตัวเองได้แก่

  • ต้องการการยกย่อง และความรักจากผู้อื่นตลอดเวลา
  • สำนึกถึงความสำคัญของตัวเองที่สูงกว่าปกติ รู้สึกว่าตนเองเป็นใหญ่
  • ความรู้สึกว่าตนเองมีสิทธิพิเศษ
  • การเอาเปรียบคนอื่นเพื่อประโยชน์ส่วนตนเป็นประจำ
  • ความรู้สึกริษยา และไม่ไว้วางใจผู้อื่นตลอดเวลา
  • ฝันเฟื่องเกี่ยวกับการมีอำนาจ การได้รับการยกย่องสรรเสริญ และความสำเร็จ
  • มีระดับความเห็นอกเห็นใจผู้อื่นต่ำ
  • แสดงพฤติกรรมยะโสโอหัง จองหอง หรือดูถูกเหยียดหยามผู้อื่น
  • ความเชื่ออย่างแน่วแน่ในสถานะของตนเองว่าพิเศษ ไม่เหมือนใคร และเหนือกว่าผู้อื่น

สาเหตุของโรคหลงตัวเอง

เช่นเดียวกับความผิดปกติทางบุคลิกภาพอื่นๆ สาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองนั้นยังไม่เป็นที่รู้แน่ชัด อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วเชื่อกันว่า สภาพแวดล้อม ปัจจัยเกี่ยวกับระบบประสาท และพันธุกรรม มีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดโรคหลงตัวเองได้ และยังเป็นไปได้ที่ว่าสำหรับผู้ที่มีแนวโน้มจะเกิดอาการผิดปกตินี้ วิธีการเลี้ยงดูของพ่อแม่ซึ่งปกป้องลูกจนเกินไป หรือการถูกละเลยในวัยเด็ก ก็อาจส่งผลกระทบได้

งานวิจัยบางชิ้นแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง ส่วนของสมองที่เชื่อมโยงกับความเห็นอกเห็นใจ ความเข้าใจ การควบคุมอารมณ์ตนเอง และการรับรู้ของสมอง จะมีเนื้อเยื่อสมองส่วนสีเทาน้อยกว่า ซึ่งอาจอธิบายได้เกี่ยวกับองค์ประกอบของระบบประสาทที่สัมพันธ์กับโรคนี้

หากคุณไปหลงรักผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเอง

ผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเองมักจะมีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และทำให้ตื่นเต้นในยามที่อยู่ด้วย พวกเขามักรู้สึกเหมือนว่าโลกนี้เป็นของตัวเอง ที่สามารถทำให้เกิดแรงดึงดูดต่อผู้อื่นได้ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็คือ ความเชื่ออย่างแน่วแน่ในความสำคัญของตัวเอง การไม่สามารถเห็นอกเห็นใจผู้อื่น และมีแนวโน้มที่จะหลอกใช้คนอื่นเพื่อประโยชน์ของตนเอง

ธรรมชาติของโรคหลงตัวเองมักจะทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับคนๆ นั้นที่จะรับรู้ถึงอาการของตัวเอง แม้เมื่ออาการเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ในการใช้ชีวิตประจำวันของตัวเองก็ตาม สำหรับคนจำนวนมากที่เป็นโรคนี้ ผู้ที่สังเกตเห็นอาการได้ก่อนมักจะเป็นคนรัก ที่เห็นผลกระทบในแง่ลบของพฤติกรรมความหลงตัวเอง และต้องการช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น

อาการของโรคหลงตัวเองที่แสดงออกในชีวิตประจำวัน

1. พวกเขาจะโกรธเมื่อคนอื่นไม่ยกย่องตัวเอง หรือไม่รับรู้ถึงความสำเร็จของตนเอง คนส่วนใหญ่ต่างก็ชอบให้คนชมหรือยกยอ เมื่อทำงานได้ดีหรือประสบความสำเร็จในบางเรื่องที่มีความพิเศษ แต่สำหรับผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเอง เรื่องเหล่านี้จะมีความสำคัญเป็นพิเศษ และพวกเขาก็จะโกรธเกรี้ยว หากการตอบสนองต่อสิ่งที่พวกเขาเห็นเป็นความสำเร็จนั้น ไม่เป็นไปตามที่ตัวเองคาดหวัง

2. พวกเขายืนยันในสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าดีที่สุด และคาดหวังให้คนอื่นสังเกตเห็นแบบเดียวกัน อาการนี้อาจแสดงออกมาในลักษณะของการไล่ล่าสิ่งของต่างๆ อย่างไม่หยุดหย่อนรวมถึงการอวดสิ่งของเหล่านี้ อย่างเช่น ไวน์ราคาแพง สินค้าแบรนด์เนม และรถยนต์หรูหรา หรือตัวบ่งชี้อื่นๆ ของความสำเร็จ เช่น งานที่เงินเดือนสูงลิ่ว หรือการได้เข้าโรงเรียนดังๆ และยังอาจแสดงให้เห็นในเรื่องความสัมพันธ์ เช่น จะคบหาดูใจแต่กับคนที่หน้าตาดี ร่ำรวย หรือมีอิทธิพล แรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้ก็คือสถานภาพและความชื่นชม ในทางกลับกันพวกเขาจะรู้สึกหรือแสดงความริษยาผู้อื่นเพราะความเป็นจริงนั้นไม่ตรงกับสิ่งที่พวกเขาคิดหรือคาดหวัง

3. พวกเขาใส่ใจอย่างมากกับความรู้สึกและความต้องการของตนเอง แต่ไม่สนใจที่จะเข้าใจความรู้สึกหรือความต้องการของผู้อื่น ผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเองไม่สามารถเห็นอกเห็นใจผู้อื่นได้ ซึ่งส่วนหนึ่งของสิ่งนี้เกิดมาจากการทำงานของระบบประสาทที่แตกต่างจากคนอื่น ดังนั้น พวกเขาอาจหลอกใช้คนอื่นเป็นประจำ หรือมีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อสัตย์ เพื่อที่จะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่สนใจในผลกระทบที่เกิดกับคนอื่น พวกเขายังอาจใจร้ายหรือไม่ให้ค่ากับคนอื่นที่พวกเขารู้สึกว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ชัดเจนสำหรับตัวเอง หรือคนที่เห็นว่าเป็นคู่แข่งในเรื่องที่ตนเองสนใจ

4. พวกเขามักยึดมั่นกับความคิดที่ว่า “ทั้งหมดหรือไม่เลย (All or nothing)” แทนการมองว่าทุกคนต่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเองจะคิดว่าแม้แต่ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวก็ส่งสัญญาณว่าคนๆ นั้นไม่มีค่าใดๆ เลย ดังนั้น จึงอาจยุติความสัมพันธ์ หรือปฏิบัติต่อคนอื่นด้วยความรู้สึกดูถูกเหยียดหยามเพียงเพราะปัญหาเล็กๆ น้อยๆ การคิดแบบนี้ยังผลักดันให้คนที่เป็นโรคนี้ยิ่งต้องการความสนใจ การยกย่องสรรเสริญ และการชื่นชม เนื่องจากการไม่ได้รับการยอมรับจะทำให้พวกเขาตั้งคำถามถึงความสำคัญและคุณค่าของตัวเอง

อาการเหล่านี้สามารถทำให้เกิดผลเสียอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ และเป็นปัจจัยให้เกิดความตึงเครียดและความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องกับคนรัก การจะสร้างความสัมพันธ์ที่มีความสุขให้ได้นั้นมักจะต้องการการรักษาจากมืออาชีพ ซึ่งจะช่วยแยกแยะอาการ และทำให้คนนั้นได้เรียนรู้กลยุทธ์ของการจัดการอารมณ์และสร้างความเข้าใจในความรู้สึก และปฏิกิริยาของผู้อื่น

การรักษาสำหรับโรคหลงตัวเอง

การวินิจฉัยปัญหาสุขภาพจิตใดๆ ก็ตาม ต้องการความช่วยเหลือจากมืออาชีพ และแผนการรักษาที่ชัดเจน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการ และทำให้คุณภาพชีวิตโดยรวมของคนๆ นั้นดีขึ้น ผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเองจะได้รับประโยชน์จากการรักษาอย่างเช่น การบำบัดความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behaviour Therapy หรือ CBT) ซึ่งการรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญจะสามารถช่วยให้คนๆ นั้นเข้าใจดีขึ้นถึงสาเหตุเบื้องลึกของการกระทำและอารมณ์ของตนเอง และสร้างรูปแบบของพฤติกรรมที่ดีขึ้นมาใหม่ เช่นเดียวกับการสร้างความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจในผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้สัมพันธภาพของผู้ที่เป็นโรคหลงตัวเองกับผู้อื่นไม่ต้องหยุดชะงักลง และสามารถมีความสัมพันธ์ที่เต็มไปด้วยความรักและยั่งยืนได้

ทำความเข้าใจและจัดการกับโรคหลงตัวเองที่ศูนย์สุขภาพจิต เดอะดอว์น

ศูนย์สุขภาพจิต เดอะดอว์น ช่วยคุณจัดการกับโรคหลงตัวเองให้คุณได้

ศูนย์สุขภาพจิต เอกชน เดอะดอว์น เชียงใหม่ เป็นสถานบำบัดและฟื้นฟูสุขภาพทั้งใจและกายที่ได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้มีบรรยากาศ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับการรักษาผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเอง ทั้งการเอาชนะปัญหาการเสพติด หรือปัญหาสุขภาพจิตอื่นๆ รวมถึงความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง

เดอะดอว์น ได้รับใบอนุญาตดำเนินการจากกระทรวงสาธารณสุขประเทศไทย รวมทั้งได้รับการรับรองจาก American Accreditation Commission International (AACI) ซึ่งเป็นองค์กรรับรองสถานพยาบาลระดับสากล จากสหรัฐอเมริกา

การช่วยเหลือบุคคลอันเป็นที่รักซึ่งมีความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเองนั้น สามารถทำได้ด้วยการเข้ารับการรักษาแบบอยู่ประจำ  โทรหาเราวันนี้ เพื่อให้เราช่วยคนที่คุณรักกลับสู่เส้นทางชีวิตที่ปกติสุขได้อีกครั้ง

ประกาศ

ณ ปัจจุบัน ศูนย์ของเรา ได้ยุติการให้บริการบำบัดภาคภาษาไทย

เดอะดอว์นขอขอบคุณทุกความไว้วางใจมา ณ ที่นี้

ให้เราช่วยคุณเริ่มต้นการเดินทางสู่สุขภาวะที่ดีตั้งแต่วันนี้

โทร: 083 204 8384